⭐️ 7 ข้อหาจราจรยอดฮิตช่วงเทศกาลสงกรานต์ ⭐️

1.เมาแล้วขับ

    เมาแล้วขับถือเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุช่วงเทศกาล ตามกฎหมายแล้วหากมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์จะถือว่า

    ผิดกฎหมาย มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 10,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจถูกศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่

    ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาต รวมถึงการยึดรถที่ใช้สูงสุดไม่เกิน 7 วัน

2.ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่หรือโดยสารในรถ

     แม้ว่าจะมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดไม่ถึง 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ แต่หากดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ หรือแม้กระทั่งผู้โดยสาร

     เป็นฝ่ายดื่มเอง ก็มีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน อัตราโทษ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3.ขับรถเร็วเกินกำหนด

    ความเร็วสูงสุดที่กฎหมายกำหนดในเขตเมืองจะอยู่ที่ 80 กม./ชม. และนอกเมืองอยู่ที่ 90 กม./ชม. แต่อาจมีการอนุโลมในถนนบางสาย

    ให้สามารถใช้ความเร็วเกินกว่านั้นได้ หากฝ่าฝืนมีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

4.จอดรถในที่ห้ามจอด

     หลายคนนำรถไปจอดในที่ห้ามจอดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีความผิดตามกฎหมาย มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 500 บาท

5.ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ

    ความผิดเกี่ยวกับการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ นอกจากจะหมายถึงการยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูเพื่อการสนทนาแล้ว ยังรวมถึงการแชท

    พิมพ์ข้อความ ค้นหาสถานที่ ฯลฯ อีกด้วย การใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่โดยไม่ผิดกฎหมาย จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริม

    เช่น หูฟังบลูทูธ สมอลทอล์คและต้องมีที่ยึดจับโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท

6.ขาดต่อภาษีประจำปี

    การเสียภาษีประจำปีมักเป็นที่เพ่งเล็งของเจ้าหน้าที่ตำรวจเสมอ หากหมดอายุจะถูกเรียกปรับทันที มีอัตราโทษ ปรับไม่เกิน 2,000 บาท

7.ขาดต่อ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ

    หากขาดต่อภาษีประจำปี ก็เป็นไปได้ว่าจะขาดต่อ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถด้วย ซึ่งการขาดต่อ พ.ร.บ.ผู้ประสบภัยจากรถยนต์

    จะมีโทษปรับสูงสุดถึง 10,000 บาท เนื่องจากเป็นประกันภัยพื้นฐานที่รถทุกคันต้องมีตามกฎหมาย